วันอังคารที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2554

เมืองโบราณดูบรอฟนิค


เมืองโบราณดูบรอฟนิค (Dubrovnik) เป็นเมืองที่อยู่ทางตอนใต้ของประเทศโครเอเชีย มีพรมแดนติดต่อกับประเทศบอสเนีย-เฮอร์เซโกวีน่า เมืองโบราณแห่งนี้เป็นหนึ่งในเมืองเก่าที่สวยที่สุดในยุโรป มีฉายาว่าเป็นไข่มุกแห่งทะเลเอเดรียติค ซึ่งก็นับว่าเป็นเมืองที่มีเอกลักษณ์เป็นของตนเองโดยเฉพาะเรื่องของการวางผังเมืองที่สวยงาม

ในอดีตนั้น "ดูบรอฟนิค" เคยเป็นเมืองที่มีอำนาจทางทะเลตั้งแต่ศตวรรษที่ 13 เป็นต้นมา มีอำนาจในการควบคุมการเดินเรือในทะเลเอเดรียติค และ เมดิเตอร์เรเนียน เป็นเมืองที่มีความสำคัญทางธุรกิจเป็นอย่างมาก
ด้วยเหตุนี้เอง "ดูบรอฟนิค" จึงเป็นเมืองที่ร่ำรวย มีเงินทองเหลือเฟือ ในการตกแต่งพระราชวัง โบสถ์ วิหาร จัตุรัส น้ำพุ และ บ้านเรือนต่างๆ อย่างงดงามตามยุคสมัย เป็นเมืองที่มีสถาปัตยกรรมทั้งกอธิค เรเนซองค์ และ บาโรคเต็มไปทั้งเมืองตัวซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าเป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์ความเป็นมายาวนาน จนได้รับการจดทะเบียนให้เป็นหนึ่งในมรดกโลกในปี ค.ศ. 1979  
 เมืองโบราณดูบรอฟนิค เคยเป็นเป้าหมายการถูกโจมตีจากกองทหารยูโกสลาฟ บ้านเรือนกว่าครึ่ง อนุสาวรีย์ต่างๆ ได้รับความเสียหาย และทรุดโทรม

          ซึ่งหากใครชื่นชอบการท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ แล้วก็อยากพักผ่อนนอนทะเลด้วย ดูบรอฟนิค ดูเหมือนจะเป็นเมืองที่คุณควรจะไปเยือนที่สุดแล้วล่ะ เพราะคุณจะได้สัมผัสกับความสวยงามมั่งคั่งของเมือง และความสวยงามของท้องทะเลไปพร้อม ๆ กัน




















อ้างอิงจาก 


วันเสาร์ที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2554

แบบฝึกหัดบทที่ 4

1.  การปกครองในข้อใดทำให้เกิดจักรวรรดิไบแซนไทน์ (Byzantine  Empire)

ก.  การปกครองแบบ       Autocrat
ข.  การปกครองระบอบ   Monarchy
ค.  การปกครองแบบ      Tretarchy
ง.  การปกครองแบบ       Anarchy

2.  หลังจากเกิดจักรวรรดิไบแซนไทน์  ข้อใดเป็นรูปแบบการปกครองของจักรวรรดิดังกล่าว


ก.  การปกครองแบบ       Autocrat
ข.  การปกครองระบอบ   Monarchy
ค.  การปกครองแบบ      Tretarchy
ง.  การปกครองแบบ       Anarchy

3.  "โรมใหม่"  หมายถึง ข้อใด

ก.  อิตาลี
ข.  อเลกซานเดรีย
ค.  คอนสแตนติโนเปิล
ง.  เซนต์ปีเตอร์เบอร์ก

4.  ข้อใด มิใช่ พื้นที่ของจักรวรรดิโรมันตะวันออกในคริสต์ศตวรรษที่ 7

ก.  ยุโรปตะวันออก
ข.  สองฝั่งของทะเลอีเจียน
ค.  คาบสมุทรไอบีเรีย
ง.  เอชียไมเนอร์

5.  ข้อใดเป็นการปกครองที่จักรพรรดิทรงมีอำนาจสูงสุดทั้งทางจักรวรรดิและทางศาสนา


ก.  การปกครองแบบ       Autocrat
ข.  การปกครองระบอบ   Monarchy
ค.  การปกครองแบบ      Tretarchy
ง.  การปกครองแบบ       Anarchy

6. จักรวรรดิโรมันตะวันออกใช้ภาษาอะไรในการสื่อสารอย่างเป็นทางการ

ก.  ภาษากรีก
ข.  ภาษาละติน
ค.  ภาษาสลาฟ
ง.  ภาษารัสเซีย

7.  คริสต์ศาสนาแบบ  Christian Hellenism  มีศูนย์กลางที่ใด

ก.  กรุงโรม
ข.  กรุงปารีส
ค.  กรุงวาติกัน
ง.  กรุงคอนสแตนติโนเปิล

8.  ข้อใด ไม่ ถูกต้องเกี่ยวกับการแพร่หลายของศาสนาคริสต์นิกายออร์โธดอกซ์

ก.  กรีก
ข.  รัสเซีย
ค.  ยุโรปตะวันออก
ง.  ยุโรปตะวันตก

9.  ข้อใด มิใช่ เมืองสำคัญทางศาสนาคริสต์ที่จักรพรรดิคอนสแตนตินทรงจัดไว้เมื่อ ค.ศ. 325

ก.  เอเธนส์
ข.  โรม
ค.  อเล็กซานเดรีย
ง.  คอนสแตนติโนเปิล

10.  ข้อใดไม่ถูกต้อง

ก.  Code        คือ  กฏหมายที่ใช้มาแต่โบราณ
ข.  Digest       คือ  ประมวลความเห็นทางกฏหมาย
ค.  Institutes   คือ  ตำรากฏหมาย
ง.  Novels      คือ  นิยายเรื่องยาว

เฉลย



แบบฝึกหัดบทที่ 3

1.  มหากาพย์อีเลียดและโอเดสซีเป็นของอารยธรรมกรีกยุดใด

ก.  ยุคมืด                     ข.  ยุคคลาสสิค
ค.  ยุคทอง                   ง.  ยุคเฮเลนิสติก

2.  วิหารพาร์เธนอน (Parthenon) สร้างขึ้นเพื่อประดิษฐานรูปเคารพของเทพองค์ใด

ก.  เฮรา                        ข.  อะเธนา
ค.  อะพอลโล               ง.  อะโฟรไดตี

3.  หัวเสาทำเป็นรูปในไม้ตรงกับข้อใด

ก.  หัวเสาดอริก                                ข.  หัวเสาไอโอนิก
ค.  หัวเสาแบบโครินเธียน                 ง.  หัวเสาอาเคียน

4.  ความนิยมในการสร้างประติมากรรมหญิงเปลือยแทนรูปชายเปลือยเกิดขึ้นยุคใด

ก.  ยุคแรก                                         ข.  ยุคมืด
ค.  ยุคคลาสสิค                                 ง.  ยุคเฮเลนิสติก

5.  จิตรกรรมกรีกสมัยแรกมักทำ  Back ground เป็นสีอะไร

ก.  สีดำ                                     ข.  สีแดง
ค.  สีขาว                                   ง.  สีเหลือง

6.  ลักษณะของงานจิตรกรรมที่นิยมวาดสีพื้นตัดกับภาพในฉาก  แล้วพัฒนาเป็นรูปเครือเถา และรูปเล่าเรื่องนิทานปรัมปรา (Methology)  และมหากาพย์ของโฮเมอร์อย่างกลมกลืนงองามเกิดขึ้นในยุคใด

ก.  ยุคแรก                                 ข.  ยุคมืด
ค.  ยุคคลาสสิค                         ง.   ยุคเฮเลนิสติค

7.  การแสดงละครแพร่หลายมากในยุคใด

ก.  ยุคแรก                                ข.  ยุคมืด
ค.  ยุคคลาสสิค                        ง.   ยุคเฮเลนิสติค

8.  ข้อใดถูกต้องเมื่อกล่าวถึงละครแบบโศกนาฎกรรม (Tragedy)  และสุขนาฎกรรม (Comedy)

ก.  ตัวละครชายทั้งหมด              ข.  ตัวละครเป็นหญิงทั้งหมด
ค.  ตัวละครเป็นชาย - หญิง         ง.   ตัวละครเป็นเด็กทั้งหมด

9.  นักปรัชญากรีกที่ก่อตั้งสำนักอะคาเดมีขึ้นที่เอเธนส์คือใคร

ก.  โสเครตีส                               ข.  เพลโต
ค.  อริสโตเติล                            ง.   เฮโรโดตัส

10.  นักปรัชญาที่เชื่อว่า ปัญญานำมาซึ่งความรู้ และความรู้นำมาซึ่งความสุขสบาย  ถ้าปราศจากความสุขสบายมนุษย์จะไม่เกิดปัญญา  คือใคร

ก.  โสเครตีส                              ข.  เพลโต
ค.  อริสโตเติล                           ง.  เฮโรโดตัส

11.  เทพองค์ใด มิใช่ พี่น้องของมหาเทพซูส

ก.  ดิมิเทอร์                              ข.  ฮาเดส
ค.  อะธีนา                                ง.  โพไซดอน

12.  อาวุธของมหาเทพซูส คือ อะไร

ก.  ดาบ                                    ข.  ธนู
ค.  สายฟ้า                               ง.  สามง่าม

13.  เทพที่มักประกฎการในลักษณะสวมหมวกขอบกว้างสวมรองเท้ามีปีกถือคฑาที่มีงูพันคือใคร

ก.  อาร์เทมีส                           ข.  อาเรส
ค.  เฮอร์มีส                             ง.  อะพอลโล

14.  เทพีแห่งการครองเรือนและเทพแห่งครอบครัว คือ ใคร

ก.  เฮร่า                                  ข.  อะธีน่า
ค.  เฮสเทีย                             ง.  อะโพรไดตี

15.  เทพีแห่งสงคราม  ความเฉลียวฉลาด และศิลปศาสตร์


ก.  เฮร่า                                  ข.  อะธีน่า
ค.  เฮสเทีย                             ง.  อะโพรไดตี

16.  เป็นชนวนเหตุของสงครามกรุงทรอยคือใคร

ก.  ปารีส                                 ข.  เฮเลน
ค.  เฮกเตอร์                           ง.  อะโพรไดตี

เฉลย

แบบฝึกหัดบทที่ 2

1.  พื้นฐานดั้งเดิมก่อนเกิดอารยธรรมตะวันตกก่อตัวขึ้นเมื่อใด

ก.  ประมาณ 4,000 BC.              ข.  ประมาณ 3,500 BC.
ค.  ประมาณ 5,000 BC.              ง.  ประมาณ  6,000 BC.

2.  ภูมิภาคแถบเอเชียไมเนอร์เป็นแหล่งกำเนิดของอารยธรรมโบราณในข้อใด

ก.  เมโสโปเตเมีย                        ข.  อียิปต์
ค.  กรีก                                        ง.  โรมัน

3.  แม่น้ำไทกริส - ยูเฟรติสพัดดินตะกอนมาท่วมฝั่งภาคใต้ของดินแดนเมโสโปเตเมียในฤดูใบไม้ผลิระหว่างเดือน.........ทำให้ภาคใต้เป็นดินแดนที่ราบลุ่มชายฝั่งทะเลอุดมด้วยปุ๋ยธรรมชาติเหมาะต่อการเพาะปลูกพืชพรรณธัญญาหารต่าง ๆ

ก.  ธันวาคม - กุมภาพันธ์                    ข.  มีนาคม  - พฤษภาคม
ค.  มิถุนายน  - สิงหาคม                     ง.  สิงหาคม - พฤศจิกายน

4.  พื่นที่ภาคเหนือของดินแดนเมโสโปเตเมียมีฝนตกชุกเมื่่อใด

ก.  ฤดูร้อน                             ข.  ฤดูใบไม้ร่วง
ค.  ฤดูหนาว                           ง.  ฤดูใบไม้ผลิ

5.  ข้อใดเป็นชนชาติเก่าแก่ที่ริเริ่มสร้างสรรค์อารยธรรมเมโสโปเตเมียขึ้นมา

ก.  ชาวสุเมอเรียน                  ข.  ชาวอัคคาเดียน
ค.  ชาวอะเมอไรต์                  ง.  ชาวอัสเรียน

6.  ข้อใดเป็นปัจจัยที่ทำให้ชาวเมโสโปเตเมียมองโลกในแง่ร้ายและไม่เห็นคุณค่าของชีวิต

ก.  สภาพภูมิกากาศแบบกึ่งทะเลทรายแปรปวน          
ข.  พายุฝนรุนแรงทำฝห้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน
ค.  เห็นตนเองเป็นทาสที่เกิดมาเพื่อรับใช้พระเจ้า      
ง.  หิมะจากเทือกเขาอะเมเนียนละลายลงมาซ้ำเติม

7.  ชาวสุเมเรียนไม่นิยมสร้างพระราชวังขนาดใหญ่ แต่นิยมสร้างซิกเกอแรท (Ziggurats) ศาสนสถานขนาดใหญ่กลางเมืองเป็นที่ประทับของเทะเจ้า ลักษณะคล้ายภูเขาห้อมล้อมด้วยกำแพงเมืองและบ้านเรือนประชาชน  สร้างจากวัสดุประเภทใด

ก.  อิฐตากแห้ง               ข.  หินทราย
ค.  หินอ่อน                     ง.  อิฐเผาอุณหภูมิสูง

8.  ข้อใดเป็นการปกครองในระยะแรก ของอาณาจักรสุเมอเรีย

ก.  กษัตริย์                       ข.  นักบวช
ค.  สภาผู้เฒ่า                   ง.  สภาของผู้ชายที่บรรลุนิติภาวะ

9.  ข้อใดเป็นอักษรที่เกิดจากการใช้ไม้เขียนลงบนแผ่นดินเหนียวแล้วผึ่ง  หรืออบให้แห้ง

ก.  คูนิฟอร์ม               ข.  เฮียโรกลีฟิก
ค.  ฟินิเชียน                ง.  อัลฟาเบธ

10.  ข้อใดเป็นชื่่อของผู้ก่อตั้งอาณาจักรบาบิโลเนีย

ก.  ฮัมมูราบี                   ข.  ซาร์กอน
ค.  กูเดีย                         ง.  อัสซูร์บานิปาล

11.  พวก Cannanites  เป็นคำเรียกชนชาติในข้อใด

ก.  ชาวฟินิเชียน               ข.  ชาวฮิบรู
ค.  ชาวเปอร์เซีย               ง.  ชาวอาร์คาเดียน

12.  หลังจากถูกรุกรานโดยชาวยิวและชาวฟิลิสไตน์เมื่อประมาณ 1,300 - 1,000 BC.  ดินแดนของชาวอะนาอันไนต์จึงเหลือเพียง  "ฟีนิเซีย"  ซึ่งตั้งอยู่บนชายฝั่งแคบ ๆ ของทะเลอะไร

ก.  ทะเลเมดิเตอร์เลเนียน                ข.  ทะเลอีเจียน
ค.  ทะเลแดง                                    ง.  ทะเลอาหรับ

13.  ในปี 750 BC.  ชนชาติใดได้เข้ามายึดครองดินแดนของชาวฟีนิเชียนจนเกือบหมด  เหลือเพียงอาณานิคมที่เมืองคาร์เธจเท่านั้น

ก.  ชาวแอสซิเรียน                      ข.  ฮิบรู
ค.  ฟิลิสไตน์                                ง.  กรีก

14.  ข้อใดเป็นต้นตระกูลของอักษรที่ชาวยุโรปใช้อยู่ในปัจจุบัน

ก.  อักษรเฮียโรกลีฟิค                 ข.  อักษรคูนิฟอร์ม
ค.  อักษรฟีนิเชียน                       ง.  อักษรฮิบรู

15.  ชาวฮิบรูเป็นชนเผ่าเร่ร่อนในทะเลทรายเมื่อ 1,400 BC.  มี Moses เป็นผู้้นำสำคัญในการปลดแอกจากการเป็นทาสของชนชาติใด

ก.  สุเมอเรียน                           ข.  อียิปต์
ค.  ปาเลสไตน์                          ง.  เปอร์เซีย

16.  ข้อใดเป็นผู้ก่อตั้งอาณาจักรอิสราเอลเมื่อประมาณ 1,013 - 973 BC"

ก.  พระเจ้าเดวิด                        ข.  พระเจ้าโซโลมอน
ค.  พระเจ้าเนบูซัคเนสซา          ง.  พระเจ้าไซรัส

17.  อาณาจักรอิสราเอลถูกทำลายดดยชนชาติใด

ก.  ชาวอียิปต์                          ข.  ชาวเปอร์เซีย
ค.  ชาวปาเลสไตน์                  ง.  ชาวแอสซิเรียน

18.  เหตุการณ์ที่เรียกว่า  The Babylonian Captivity  เกี่ยวข้องกับชนชาติใด

ก.  ชาวอียิปต์                          ข.  ชาวฮิบรู
ค.  ชาวปาเลสไตน์                  ง.  ชาวแอสซิเรียน

19.  ข้อใดถูกต้องเกี่ยวกับศาสนายูดาย

ก.  นับถือเทพซูส                     ข.  นับถือพระยะโฮวา
ค.  นับถือพระมะหะหมัด           ง.  นับถือพระอัลเลาะห์

20.  ผู้สถาปนาอาณาจักรเปอร์เซียเมื่อปี  549 BC. คือใคร

ก.  พระเจ้าเดวิด                         ข.  พระเจ้าดาริอุส
ค.  พระเจ้าเนบูซุคเนสซา           ง.  พระเจ้าไซรัส

เฉลย

แบบฝึกหัดบทที่ 1

1.  ข้อใดไม่ถูกต้อง

ก.  มนุษย์สร้างงานศิลปะได้เพราะรู้จักคิด
ข.  สิ่งที่ทำให้มนุษย์เจริญกว่าสัตว์ คือ ปัญญาและความคิด
ค.  มนุษย์ไม่ต่างจากสัตว์ในแง่ของอารมณ์และความรู้สึกทางธรรมชาติ
ง.  มนุษย์สร้างอาวุธ เครื่องมือ ความเชื่อและความงามขึ้นเพื่อตอบสนองการดำเนินชีวิต

2.  การที่สังคมมีความซับซ้อนและมีความเจริญทางวัตถุเกิดจากปัจจัยสำคัญในข้อใด

ก.  ภาษา
ข.  ศาสนา
ค.  เครื่องมือ
ง.  สัญชาตญาณ

3.  ข้อใดถูกต้องที่สุดเมื่อกล่าวถึงการศึกษางานศิลปะสมัยก่อนประวัติศาสตร์ในโลกตะวันตก

ก.  เทวรูปกรีก
ข.  จารึกในวิหารโรมัน
ค.  อักษรคูนิฟอร์ม
ง.  ภาพเขียนสีถ้ำลาสโคซ์

4.  คำว่ามนุษย์ผู้ถนัดในการใช้มือตรงกับข้อใดมากที่สุด

ก.  โฮโมฮาบิลิส
ข.  โฮโมเซเปียนส์
ค.  โฮโมอิเรคตัส
ง.   ออสตราโลพิเธคัส

5.  ข้อใดเป็นมนุษย์สมัยก่อนประวัติศาสตร์กลุ่มหนึ่่งในยุโรปซึ่งมทิ้งผลงานศิลปะไว้มากมายในถ้ำต่าง ๆ

ก.  นีแอนเดอธัล
ข.  โครมันยอง
ค.  โอลดูเวย์  จอร์จ
ง.   เบจิงแมนเอนสีส

6.  ข้อใด มิใช่ แหล่งโบราณคดีซึ่งพบหลักฐานภาพเขียนสีสมัยหินเก่าอายุประมาณ 30,000 - 25,000 BC. ในยุโรป

ก.  อัลตามีรา
ข.  ลาสโคซ์
ค.  โอลดูเวย์
ง.   ลา มาไดเลน

7.  ข้อใดเป็นศิลปะถ้ำซึ่งพบโดยบังเอิญจาการเล่นซุกซนของเด็กสองคนเมื่อ ค.ศ. 1940

ก.  อัลตามีรา
ข.  ลาสโคซ์
ค.  โอลดูเวย์
ง.   ลา มาไดเลน

8.  ภาพเขียนสีในถ้ำอะไรมักถูกยกเป็นตัวอย่างของจิตรกรรมสมัยก่อนประวัติศาสตร์เสมอ

ก. อัลตามีรา
ข.  ลาสโคซ์
ค.  โอลดูเวย์
ง.   ลา มาไดเลน

9.  ข้อใด ไม่ถูกต้อง

ก.  ประติมากรรมเทพธิดาแห่งการให้กำเนิดคาทาลคือยึด
ข.  วีนัสแห่งเลส์ปุคสลักจากงาช้างพบที่ถ้ำเลส์ปุคฝรั่งเศส
ค.  ประติมากรรมสลักหินรูปวีนัสแห่งวิลเลนเดร์ฟพบที่ออสเตรีย
ง.  งานประติมากรรมรูปคนสมัยก่อนประวัติศาสตร์ มักมีขนาดใหญ่

10.  Menhir or Standing Stone เป็นอนุสาวรีย์หินแบบใด

ก.  โต๊ะหิน
ข.  หินตั้งเดี่ยว
ค.  หินตั้งเป็นวงกลม
ง.   หินตั้งเป็นแกนยาว

เฉลย

  1.  ค